4 สิ่งต้องทำ เพื่อดูแลบ้านในหน้าหนาว
1. ซ่อมแซมบ้าน….
หลังผ่านพ้นฤดูฝน ส่วนต่างๆ ของบ้านอาจเกิดการชำรุดทรุดโทรม โดยปัญหาที่พบบ่อยๆ เช่น หลังคาแตกร้าวรั่วซึม, ฝ้ารั่วหรือเป็นรอยด่างเพราะความชื้น, วงกบไม้โก่งบวมหรือเกิดเชื้อรา และอื่นๆ อีกมากมาย เราจึงควรตรวจสอบบ้านให้ครบทุกจุด หากพบปัญหาควรรีบซ่อมแซมให้เรียบร้อย อย่าปล่อยให้ปัญหาเล็กๆ ลุกลามเป็นเรื่องใหญ่ นอกจากนี้ ในหน้าหนาววัสดุบางชนิดอาจมีการหดตัวตามสภาพอากาศ โดยเฉพาะไม้ซึ่งมีอัตราการหดตัวค่อนข้างมาก จนบางครั้งบ้านเกิดช่องว่างหรือรอยต่อ จึงควรซ่อมแซมด้วยวิธีที่เหมาะสม หรือหากปัญหาหนักมาก อาจพิจารณาเปลี่ยนมาใช้วัสดุทดแทนไม้จำพวกไฟเบอร์ซีเมนต์ ซึ่งไม่มีปัญหาหดหรือขยายตัวตามสภาพอากาศ
2. ป้องกันอัคคีภัย
ฤดูหนาวเป็นฤดูที่เสี่ยงอัคคีภัยมากที่สุดเพราะอากาศที่แห้งจัดทำให้ไฟติดและลุกลามได้ง่าย โดยเฉพาะบ้านไม้ซึ่งถือเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี เราจึงควรป้องกันการเกิดเพลิงไหม้ตั้งแต่เนิ่นๆ โดยตรวจสอบสภาพเครื่องใช้ไฟฟ้าและสายไฟภายในบ้านอย่างละเอียด หากเสื่อมสภาพควรซ่อมแซมหรือเปลี่ยนใหม่ รวมถึงไม่ควรเสียบปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้ากับเต้ารับหรือปลั๊กพ่วงตัวใดตัวหนึ่งมากจนเกินไป เพื่อป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร นอกจากนี้ เมื่อทำกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับไฟทุกประเภท ไม่ว่าจะทำอาหาร จุดธูปเทียน หรือกิจกรรมใดๆ ก็ต้องระมัดระวังให้มากเป็นพิเศษ
3. ทาสีใหม่
ฤดูหนาวเป็นฤดูที่เหมาะกับการทาสีใหม่มากที่สุด เพราะมีความชื้นในอากาศน้อยกว่าช่วงอื่นๆ ของปี ทำให้ทาสีติดง่าย แห้งไว ได้สีสวยเนี้ยบกว่า แถมยังสามารถทาสีภายนอกได้โดยไม่ต้องกังวลว่าฝนจะตกลงมาระหว่างทำงาน สำหรับบ้านไหนที่ผนังมีปัญหาสีบวมพองหรือลอกล่อนมาตั้งแต่ฤดูฝน แนะนำให้ถือโอกาสหน้าหนาวนี้ซ่อมแซมและทาสีใหม่เพื่อปรับบรรยากาศบ้านให้สวยสดใสยิ่งขึ้นได้ครับ
4. บำรุงรักษาสวน
อากาศที่แห้งและเย็น อาจทำให้ต้นไม้และสนามหญ้าในสวนแห้งแล้งเหี่ยวเฉาได้ง่ายๆ อีกทั้งในช่วงหน้าหนาวนั้นมีความชื้นที่น้อยมากด้วย ต้นไม้ต่างๆ จึงผลัดใบออก เพื่อลดการคายน้ำนั่นเอง หน้าหนาวนี้จึงควรดูแลสวนให้มากเป็นพิเศษ โดยรดน้ำต้นไม้เป็นประจำ ใส่ปุ๋ยบำรุงอย่างถูกวิธี และควรตัดแต่งหรือเล็มกิ่งไม้ในสวนออกบ้าง โดยเฉพาะกิ่งที่เป็นโรคหรือกิ่งที่ใกล้ตาย เพื่อป้องกันโรคพืชไม่ให้ลุกลามและเพื่อให้กิ่งอื่นๆ ที่เหลือได้รับน้ำและสารอาหารอย่างเต็มที่
Creadit : thaihometown.com